ควรไปเที่ยวจางเจียเจี้ยช่วงไหนดี? ที่เขาอวตารฝนตกไหม? หิมะที่เขาอวตารมีหรือไม่? วันนี้ทีมงานพี่เสือแฟลชทัวร์ได้นำคำถามที่คนถามกันมาเยอะเกี่ยวกับการเที่ยวจางเจียเจี้ยเขาอวตาร มาสรุปให้ทุกท่านได้อ่านกันแบบง่ายๆ สบายตา พร้อมกับรูปภาพที่สวยงามมาให้ท่านได้รับชมกันฮับ!

ดูคลิป VDO ไปจางเจียเจี้ยช่วยไหนดี?

ดูคลิป VDO เฉลยคำถามยอดฮิตทริปจางเจียเจี้ย

อากาศและฤดูที่จางเจียเจี้ยเขาอวตาร

ที่จางเจียเจี้ยและเขาอวตารจะมีสภาพอากาศและบรรยากาศที่สวยงามเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาลดังนี้

ช่วงฤดูหนาว (ธ.ค. – ก.พ.)

เขาอวตารในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 4°C แม้ว่าจะมีลมแรงมากและบางครั้งก็มีหิมะตกเล็กน้อย แต่ภูมิทัศน์ก็สวยงามแตกต่างจากฤดูอื่น ด้วยหิมะปกคลุมหุบเขาอวตารด้วยสีขาวตัดกับทัศนีย์ภาพที่เห็นวิวชัดเจน ช่วงนี้ค่อนข้างเที่ยวง่ายไม่แออัดด้วยผู้คน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบ

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. – พ.ค.)

เป็นช่วงที่บรรยากาศที่มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม โดยเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิในช่วงเวลานี้อยู่ระหว่าง 15°C ถึง 25°C เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ภูเขาอวตารโดยเฉพาะบริเวณในอุทยานจะเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและดอกไม้หลากสีสัน ทำให้เป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่อยากเห็นบรรยากาศที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็จะเริ่มทยอยมากันหนาตามากขึ้น

ช่วงฤดูร้อน (มิ.ย. – ส.ค.)

ภูเขาอวตารในฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิตั้งแต่ 28°C ถึง 33°C แม้จะอากาศจะร้อนมากว่าฤดูอื่น แต่ก็ยังสดชื่นด้วยทิวทัศน์บรรยากาศที่อุดมสมบูรณ์ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเจอฝนบ้างในบางวัน ช่วงนี้หมอกจะปกคลุมส่วนล่างของเนินเขา ชวนให้นึกถึงเทือกเขาฮาเลลูยาอันลึกลับแห่งแพนโดร่าจากภาพยนตร์ Avatar2​

ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. – พ.ย)

อากาศจะเริ่มเย็นลงโดยอุณหภูมิโดยมีอุณหภูมิสูงสุดที่ 23°C และสามารถต่ำสุดที่ 12°C ในฤดูนี้เขาอวตารจะเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสี เราจะเริ่มเห็นสีแดงหรือสีน้ำตาลสอดแทรก แต่ต้นไม้ส่วนใหญ่ก็ยังคงมีใบสีเขียวอยู่ ในฤดูนี้แนะนำให้ลิ้มรสผลไม้ตามฤดูกาล เช่น กีวี ลูกแพร์ เกาลัดจีน และลิ้นจี่ ที่อร่อยสดใหม่ ราคาไม่แพง

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเที่ยวจางเจียเจี้ยเขาอวตาร

ทีมงานพี่เสือแฟลชทัวร์ได้รวบรวมคำตอบมาเพื่อให้ท่านสามารถตัดสินใจว่าควรจะไปจางเจียเจี้ยช่วงไหนดี ดังนี้

ไฮไลท์ที่เขาอวตารมีอะไรบ้าง?

อ่าวเสินถัง (Shentang Gulf): ช่องเขาลี้ลับล้อมรอบด้วยหน้าผามีแอ่งน้ำสีเขียวเข้มที่ด้านล่าง ปกคลุมไปด้วยหมอกตลอดทั้งปี เศที่น่าขนลุกพร้อมเสียงตีกลองและฆ้อง เสียงของมนุษย์ และม้าที่ส่งเสียงร้องดังก้องไปทั่ว แคนยอน

• Dianjiang Terrace: เป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมป่าหินทะเลตะวันตก (West Sea Stone Forest) พร้อมทิวทัศน์ทะเลหมอก โดยหินขรุขระที่ยื่นออกมาจากหุบเขา จะมีลักษณะคล้ายกับจักรพรรดิกำลังนับทหารให้ทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาเลยทีเดียว
• Ten Miles Gallery: ชมหุบเขาที่ทอดยาวประมาณ 10 ไมล์ ด้วยรถไฟขบวณเล็กๆ สุดโรแมนติก สำรวจทิวทัศน์อันงดงามตามทาง พาชมยอดเขาที่มีรูปร่างหลากหลายคล้ายวัตถุต่างๆ อย่างสนุกสนาน
• ยอดพู่กันของจักรพรรดิ (Imperial Writing Brush Peaks): ชมยอดเขาที่มีชื่อเสียงอีกแห่งบนเขาอวตาร โดยยอดเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับฉากที่กษัตริย์เซียงทิ้งพู่กันไว้ โดยมียอดหนึ่งดูเหมือนพู่กันกลับด้าน และยอดอื่นๆ กลายเป็นภาพที่เสร็จสมบูรณ์ จึงเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวจากแฟลชทัวร์อย่างเราห้ามพลาดเด็ดขาด
• ลิฟท์แก้ว
  เราจะมีช่วงหนึ่งที่ต้องลงลิฟท์แก้วที่อยู่บนอุทยาน ซึ่งในช่วงที่ลงลิฟท์เราจะเห็นเขาอวตารหลายยอดที่มีความสวยงามผ่านกระจก แนะนำให้รีบเข้าลิฟท์ก่อนเพื่อที่จะได้อยู่ชิดกระจกจะได้เห็นวิวชัดๆ บอกเลยว่าตรงนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ห้ามพลาด

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ หลายท่านคงคลายความสงสัยได้ไม่มากก็น้อย หากท่านมีคำถามอะไรหรืออยากให้ทีมงานพี่เสือแฟลช์ทัวร์เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องอะไร สามารถแนะนำกันเข้ามาได้นะฮับ ^_^

สำหรับผู้ใดที่สนใจอยากไปเที่ยวจางเจียเจี้ยกับพี่เสือแฟลชทัวร์ สามารถดูโปรแกรมได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย!

• รวมแพ็คเกจทัวร์จางเจียเจี้ยเขาอวตาร คลิกที่นี่<<
• ดูโปรแกรมจีนทั้งหมด คลิก<<